ผลวิจัยผู้บริโภคชาวจีน พบคนใช้ iPhone มีฐานะแย่กว่าคนใช้ Huawei และ Xiaomi


ผลวิจัยจากบริษัทวิจัย ม็อบดาต้า (MobData) ของจีนพบว่า ผู้ใช้ iPhone สมาร์ทโฟนดังของ Apple จะได้รับการศึกษาน้อย อัตคัดด้านเงินทอง และมีทรัพย์สินน้อยกว่า ผู้ใช้สมาร์ทโฟนชาวจีนแบรนด์อื่นอย่าง Huawei หรือ Xiaomi

MobData ซึ่งมีฐานอยู่ในเซี่ยงไฮ้ยังพบด้วยว่าผู้ใช้ iPhone ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน อายุช่วง 18 - 34 ปี โดยจบการศึกษาเพียงระดับมัธยมศึกษา และมีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 3,000 หยวน (ราว 14,300 บาท) โดยคนกลุ่มนี้คือกลุ่มประชากรที่เรียกว่า “จนแอบแฝง (Invisible poor)” ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนที่ดูแล้วไม่จน แต่ในความเป็นจริงมีปัญหาทางการเงิน

ในทางตรงกันข้าม ผู้ใช้สมาร์ทโฟนแบรนด์จีนอย่าง Huawei นั้นส่วนใหญ่จะเป็นชายที่แต่งงานแล้ว ที่มีอายุอยู่ในช่วง 25 - 34 ปี ได้รับการศึกษาระดับประกาศนียบัตร หรือ ปริญญาบัตร และมีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ราว 5,000 - 20,000 หยวน (24,000 - 95,000 บาท) โดยผลวิจัยพบด้วยว่า ผู้ใช้ Huawei ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของอพาร์ทเมนต์ และรถยนต์ ขณะที่ผู้ใช้ Apple ไม่สามารถเป็นเจ้าของทรัพย์สินเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม MobData กลับไม่เปิดเผยถึงรายละเอียดของงานวิจัยแต่อย่างใด

ผลวิจัยยังเผยด้วยว่า ชาวจีนที่จบการศึกษาระดับปริญญา และผู้ที่มีรายได้มากกว่า 20,000 หยวนต่อเดือน (มากกว่า 95,000 บาท) ขึ้นไป สนใจจะใช้สมาร์ทโฟนแบรนด์จีนอย่า Huawei และ Xiaomi และมากกว่าครึ่งของผู้ใช้สมาร์ทโฟนแบรนด์ OPPO และ VIVO มีรายได้ราว 3,000 - 10,000 หยวนต่อเดือน (14,300 - 47,500 บาท) ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วสูงกว่าผู้ที่ใช้ iPhone

ด้วยสาเหตุที่ Apple ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจาก Samsung และ Huawei โดยปกติแล้วจะขึ้นราคาสมาร์ทโฟนระดับเรือธงของตนเองทุกปี ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากในตลาดเกิดใหม่หลายแห่ง โดยเฉพาะในอินเดีย และจีน หันไปซื้อหาสมาร์ทโฟนทางเลือกอื่น ๆ มาใช้แทน เช่น OnePlus หรือ Honor มาใช้แทน

นอกจากนี้ ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว Apple ยังประกาศลดคำสั่งซื้อชิ้นส่วนจากผู้ผลิต 2 รายใหญ่ในจีน ด้วยเหตุที่ยอดขาย iPhone XR ซึ่งเป็น iPhone ราคาถูก ขายไม่ได้ตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ iPhone รุ่นเก่า และ iPhone มือสอง ยังได้รับความนิยมอยู่ในตลาดจีน กล่าวคือ iPhone 6 ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ 4 ปีก่อน (2557) ยังคงเป็น iPhone ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในหมู่ชาวจีน ตามมาด้วย iPhone 6s และ iPhone 6s Plus

แหล่งที่มา