เอซุส เปิดตัวสมาร์ทโฟน ZenFone 5Z และ ZenFone 5 (2018) อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นรุ่นที่ออกมาสานต่อ ZenFone 4 ในปี 2017 ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ZenFone 5 ที่เคยเปิดตัวในช่วงต้นปี 2014 โดย ZenFone 5 (2014) เน้นไปที่ความคุ้มค่า ราคาจับต้องได้ง่าย แต่สำหรับ ZenFone 5 (2018) เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง และ ZenFone 5Z จัดอยู่ในกลุ่มไฮเอนด์ แต่ทั้งคู่ถูกออกแบบมาเหมือนกัน และมีคุณสมบัติหลายอย่างที่ไม่ได้แตกต่างกันเลย
การออกแบบของ Asus ZenFone 5Z และ ZenFone 5 ดูเหมือนกับ iPhone X อย่างชัดเจนอยู่ 2 จุด คือ จุดแรกที่จอแสดงผล มีรอยแหว่งที่ขอบบนเหมือนกัน และอีกจุดคือ กล้องถ่ายรูปด้านหลัง เป็นเลนส์คู่แนวตั้ง และวางอยู่มุมบนซ้ายเหมือนกัน
สาเหตุที่ Asus ZenFone 5Z และ ZenFone 5 มีรอยแหว่งบนจอแสดงผล เพราะเว้นไว้สำหรับติดตั้งลำโพงหูฟังและกล้องหน้า ส่วนมุมบนจอก็แสดงไอคอนหรือสัญลักษณ์เครือข่ายโทรศัพท์ สถานะแบตเตอรี่ และ นาฬิกา โดยใช้ ZenUI 5
นอกจากการออกแบบแล้ว Asus ZenFone 5Z และ ZenFone 5 ยังมีซอฟต์แวร์บางอย่างที่คล้ายกับ iPhone X ด้วย อย่างระบบสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค คล้ายกับ Face ID แต่ความจริงสมาร์ทโฟนของ Android ทำได้มานานแล้ว เพียงแต่ความปลอดภัยยังเทียบไม่ได้กับ iPhone X เพราะ Apple ใช้เซ็นเซอร์ 3 มิติ มาวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้า ขณะที่ ZenFone 5 หรือ 5Z ใช้ระบบจดจำใบหน้าธรรมดา แต่ก็มีระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย
Asus ZenFone 5Z และ ZenFone 5 ยังมาพร้อม ZeniMoji ที่มีรูปแบบการใช้งานคล้ายกับ Animoji ของ iPhone X สามารถใช้ตัวการ์ตูน มาเป็น Avatar แสดงสีหน้าและเคลื่อนไหวเลียนแบบท่าทางของผู้ใช้งาน สามารถใช้ ZeniMoji ได้ในการสนทนาทางข้อความ วีดีโอแชท รวมถึงการถ่ายทอดสด หรือ Live-streaming ขณะที่ Animoji ยังใช้งานได้ในข้อความเท่านั้น
กล้องถ่ายรูปของ Asus ZenFone 5Z และ ZenFone 5 ใช้สเปกเดียวกัน กล้องด้านหลังเป็นแบบเลนส์คู่ ตัวหลัก 12 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Dual Pixel จาก Sony IMX363 ขนาดพิกเซล 1.4 ไมครอน รูรับแสง F1.8 ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 4-axis Optical Image Stabilization กล้องตัวรองเลนส์มุมกว้าง 120 องศา บันทึกวีดีโอ 4K (3840 x 2160 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที) กล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล
ด้านคุณภาพเสียงมาพร้อมลำโพงคู่ พร้อม NXP Smart Amp สนับสนุน Hi-Res audio 192kHz/24-bit และมีไมโครโฟนช่วยลดเสียงรบกวน
ZenFone 5Z ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Android Oreo ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 845 หน่วยความจำ RAM สูงสุด 8GB ความจำภายในสูงสุด 256GB ส่วนรุ่น ZenFone 5 ใช้ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 636 ความจำ RAM สูงสุด 6GB ความจำภายใน 64GB ทั้ง 2 รุ่น ยังสนับสนุนการ์ดหน่วยความจำ MicroSD สูงสุด 2TB แบตเตอรี่ 3300mAh และรองรับเทคโนโลยี Fast Charging
แหล่งที่มา