iPhone 11 มีอะไรใหม่บ้าง? เข้ามาอ่านเลย พร้อมเปิดเผยราคาทุกรุ่น


Apple ประกาศเปิดตัว iPhone 11 ที่มาพร้อมนวัตกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มความทรงพลังของสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลก ควบคู่กับการปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ ที่ผู้ใช้ใช้บ่อยที่สุดตลอดทั้งวัน โดย iPhone 11 แนะนำระบบกล้องคู่อันทรงพลังเพื่อให้ประสบการณ์การถ่ายรูปที่ง่ายเป็นธรรมชาติ พร้อมวิดีโอคุณภาพสูงสุดในสมาร์ทโฟน และโหมดกลางคืนสำหรับภาพถ่าย ส่วนชิพที่ใช้ใน iPhone 11 คือชิพ A13 Bionic เพื่อรองรับการทำงานที่ต้องการพลังในการประมวลผลสูงสุด ทั้งยังใช้งานได้ตลอดทั้งวันด้วยการชาร์จแบตเตอรี่เพียงครั้งเดียว และออกแบบมาเพื่อทนต่อทุกสภาพ พร้อมความสามารถในการทนน้ำที่ดีขึ้น

“iPhone 11 คือ iPhone เจเนอเรชั่นถัดไปที่มาพร้อมความสามารถใหม่ๆ มากมายในดีไซน์อันน่าทึ่ง รวมถึงกล้องใหม่ทั้งแบบอัลตร้าไวด์และไวด์ เพื่อวิดีโอและการถ่ายภาพที่สวยงาม พร้อมพลังและความสะดวกในการใช้งานของระบบปฏิบัติการ iOS 13 และชิพ A13 Bionic ซึ่งเป็นชิพที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน เพื่อการทำงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วที่เป็นหัวใจสำคัญของผู้ใช้ในทุกวัน” Phil Schiller รองประธานอาวุโส Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว“การผสานระหว่างฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์และบริการได้ครบถ้วนทุกมิติ ก่อเกิดพัฒนาการรุดหน้าใน iPhone 11 ที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในราคาที่เอื้อมถึงได้ให้กับลูกค้าจำนวนมากขึ้น ซึ่งเราคิดว่าพวกเขาจะชื่นชอบ”

iPhone 11 มีให้เลือกในหกสีสันใหม่อันงดงาม ซึ่งจะพร้อมให้สั่งจองล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 13 กันยายนนี้ และสั่งจองในร้านในวันศุกร์ที่ 20 กันยายน ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 24,900 บาท


ดีไซน์และจอภาพที่เที่ยงตรง


ดีไซน์ด้านหลังผ่านกระบวนการตัดและบด ก่อนขึ้นรูปด้วยความแม่นยำจากกระจกเพียงชิ้นเดียว กระจกที่ใช้ใน iPhone 11 จึงมีความแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน ได้รับเรทที่ระดับ IP68 ด้านการทนน้ำที่ความลึกไม่เกิน 2 เมตร นานติดต่อกันสูงสุด 30 นาที และมีระบบป้องกันหากโดนของเหลวทั่วไปหกใส่ เช่นกาแฟหรือน้ำอัดลม2 โดย iPhone 11 มาพร้อมหกสีใหม่สวยงาม ทั้งสีม่วง สีเขียว สีเหลือง สีดำ สีขาวและสีแดง PRODUCT(RED)

จอภาพ Liquid Retina ขนาด 6.1 นิ้ว งดงามรองรับขอบเขตสีกว้าง และสี True Tone เพื่อประสบการณ์การรับชมที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น3 โดยลูกค้าจะสามารถใช้แอพที่ตนเองชื่นชอบได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีสะดุดเนื่องจาก iPhone 11 ได้ผสานรวมการแตะค้างแบบสั่นไว้กับทุกส่วนของระบบปฏิบัติการ iOS 13 เพื่อสร้างทางลัดของแอพไปสู่งานที่ทำเป็นประจำได้จากหน้าจอโฮม ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพเซลฟี่จากแอพกล้อง การตรวจเช็คนัดหมายในแอพปฏิทิน หรือการแสดงตัวอย่างอีเมลภายในแอพเมล์ได้ด้วยการกดเพียงหนึ่งครั้ง


A13 Bionic ชิพที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน


ชิพ A13 Bionic เป็นชิพที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน ชิพนี้มาพร้อมประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือชั้น รองรับการใช้งานทุกอย่างที่ iPhone 11 ทำได้ ทั้งยังมี CPU และ GPU ที่เร็วกว่า A12 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ โดยชิพ A13 Bionic สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเรียนรู้ของระบบ ทั้งยังมี Neural Engine ที่เร็วขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ภาพถ่ายและวิดีโอแบบเรียลไทม์ นอกเหนือจาก Machine Learning Accelerators แบบใหม่เพื่อให้ CPU ทำงานได้มากกว่า 1 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที

เมื่อชิพ A13 Bionic และระบบปฏิบัติการ iOS 13 ทำงานร่วมกัน แพลตฟอร์มการเรียนรู้ของระบบที่ได้จะเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟน โดยชิพ A13 Bionic ที่สร้างขึ้นมาเพื่อความมีประสิทธิภาพ ยังช่วยให้แบตเตอรี่ที่ทำงานได้ตลอดทั้งวันดียิ่งขึ้นไปอีก


ระบบกล้องคู่แบบใหม่หมด


iPhone 11 เปิดตัวพร้อมกับระบบกล้องคู่ ประกอบด้วยกล้องอัลตร้าไวด์และไวด์แบบใหม่หมดที่ผสานรวมเข้ากับระบบ iOS 13 ในทุกมิติ เพื่อการถ่ายทำวิดีโอคุณภาพสูงสุดในสมาร์ทโฟน และมอบความล้ำสมัยที่สำคัญในการถ่ายภาพเพื่อเปิดรับประสบการณ์ที่เป็นที่สุดจากกล้องถ่ายรูป

iPhone 11 ถ่ายวิดีโอได้คมชัดและสวยงาม เนื่องจากกล้องทั้งแบบอัลตร้าไวด์และไวด์รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ที่มีช่วงไดนามิกที่ขยายกว้างขึ้นเพื่อให้มองเห็นรายละเอียดที่ต้องการเน้นย้ำได้ดีขึ้นและเพื่อไม่ให้งานวิดีโอระดับภาพยนตร์สั่นไหว ซึ่งมุมมองการมองภาพที่กว้างขึ้นและช่องโฟกัสขนาดใหญ่จะทำให้ผู้ใช้ถ่ายทำวิดีโอแอคชั่นได้อย่างละเอียดด้วยกล้องแบบอัลตร้าไวด์

ระบบกล้องคู่จะช่วยให้ผู้ใช้ซูมระหว่างกล้องแต่ละตัวได้ง่าย ขณะที่โหมด Audio Zoom จะจับคู่เสียงเข้ากับการจัดเฟรมของวิดีโอเพื่อให้เสียงแบบไดนามิกยิ่งขึ้น ในส่วนของเครื่องมือตัดต่อวิดีโออันทรงพลังซึ่งเมื่อใช้กับระบบปฏิบัติการ iOS 13 แล้ว ก็จะช่วยให้ทุกคนเข้าถึงได้ พร้อมความสามารถในการหมุน ครอบตัด เพิ่มการเปิดรับแสงและนำฟิลเตอร์ต่างๆ มาใช้กับวิดีโอได้ทันที โดยทั้งหมดนี้ทำได้จากภายในอินเทอร์เฟซของแอพกล้องแบบใหม่ที่ใช้งานได้ง่าย

กล้องอัลตร้าไวด์แบบใหม่หมดใน iPhone 11 จะเปลี่ยนประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยการจับภาพฉากต่างๆ ได้มากขึ้นถึง 4 เท่า เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ถ่ายภาพทิวทัศน์หรือถ่ายภาพสถาปัตยกรรม การถ่ายภาพระยะใกล้ และอื่นๆ ตัวเซ็นเซอร์ Wide แบบใหม่ที่มาพร้อม Focus Pixels แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ รองรับการถ่ายภาพในโหมดกลางคืน ถือเป็นการพลิกโฉมการถ่ายภาพในร่มและกลางแจ้งที่มีแสงน้อยได้อย่างโดดเด่น ภาพที่ได้จึงสว่างขึ้น มีสีสันที่เป็นธรรมชาติและนอยซ์ลดลง โดยกล้องทั้งสองตัวจะทำงานประสานกัน ทำให้ถ่ายภาพผู้คน สัตว์เลี้ยง วัตถุและอื่นๆ ได้จากโหมดภาพถ่ายบุคคล

Smart HDR เจเนอเรชั่นถัดไปใช้การเรียนรู้ของระบบที่ล้ำสมัยเพื่อบันทึกภาพที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น พร้อมไฮไลท์และดีเทลในส่วนแสงเงาของตัวแบบและพื้นหลังที่สวยงาม ขณะที่คุณสมบัติ Deep Fusion ซึ่งจะเปิดตัวภายในปีนี้นั้น คือระบบการประมวลผลภาพใหม่ที่ Neural Engine ของ A13 Bionic จะนำมาใช้ โดย Deep Fusion จะใช้การเรียนรู้ของระบบที่ล้ำสมัยเพื่อทำการประมวลผลภาพแบบพิกเซลต่อพิกเซล เพื่อการแสดงเท็กซ์เจอร์ ดีเทลและนอยซ์ในทุกส่วนของภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Apple ที่รวมกันได้อย่างสมบูรณ์ทุกมิติ มาพร้อมกับระบบอินเทอร์เฟซกล้องที่ออกแบบใหม่ เพื่อมอบประสบการณ์ที่เต็มอิ่มมากขึ้น โดยจะทำงานร่วมกับระบบกล้องคู่และจอภาพแบบหน้าจอทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้มองเห็นและบันทึกภาพที่อยู่นอกเฟรมได้ และยังถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ใช้จะสามารถบันทึกวิดีโอได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องออกจากโหมดรูปถ่ายผ่านทาง QuickTake โดยแค่กดที่ปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้เพื่อเริ่มบันทึกวิดีโอ

กล้อง TrueDepth โฉมใหม่เปิดตัวกล้อง 12MP แบบใหม่ที่มาพร้อมกับช่องมองภาพที่กว้างขึ้นเพื่อการบันทึกภาพเซลฟี่ได้จุใจ ขณะที่ Smart HDR เจเนอเรชั่นถัดไปช่วยให้ภาพดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ส่วนการบันทึกวิดีโอเซลฟี่ได้อย่างโดนใจคือความพิเศษที่สุดบนกล้อง TrueDepth เพราะนี่คือการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ 4K ที่ 60 fps และการบันทึกวิดีโอสโลว์โมชั่นที่ 120 fps


คุณสมบัติเพิ่มเติม


ชิพ U1 ใหม่ที่ Apple ออกแบบขึ้นมาใช้เทคโนโลยี Ultra Wideband ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นำมาใช้ครั้งแรกในสมาร์ททโฟนเพื่อการรับรู้ถึงระยะการอ้างอิงพื้นที่ ขณะที่ AirDrop ที่จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 13.1 ในวันที่ 30 กันยายนนี้ จะทำงานได้ดีขึ้นด้วยคำแนะนำการใช้งานแบบกำหนดทิศทาง

Face ID ซึ่งเป็นการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าที่ปลอดภัยที่สุดในสมาร์ทโฟน ทำงานเร็วขึ้น 30% และใช้ง่ายขึ้นด้วย เพราะสามารถทำงานได้ดีขึ้นจากระยะต่างๆ และทำงานได้จากหลายมุมมากขึ้นด้วย

ระบบเสียงสมจริงมอบประสบการณ์การรับฟังเสียงรอบทิศทางเต็มอิ่มสมจริง ขณะที่ Dolby Atmos ให้พลังเสียงเคลื่อนไหวอันทรงพลังบน iPhone 11

LTE ระดับ Gigabit และ Wi-Fi 6 ช่วยให้ดาวน์โหลดได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม และรองรับซิมคู่ด้วย eSIM


มาพร้อม iOS 13


iOS 13 ใน iPhone 11 มอบประสบการณ์ที่ราบรื่นไร้รอยต่อ เพราะมีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่เหมือนสมาร์ทโฟนไหนๆ และ iOS 13 ยังมีลุคใหม่อันโดดเด่นอย่างโหมดมืด, วิธีลงชื่อเข้าใช้แอพและเว็บไซต์ที่เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติ "ลงชื่อเข้าด้วย Apple" และประสบการณ์การใช้งานแอพแผนที่แบบใหม่หมด6

เมื่อมีคุณสมบัติอันล้ำสมัยในแอพกล้องและรูปภาพ การปรับแต่งรูปจึงครอบคลุมและเรียบง่ายยิ่งขึ้น ทั้งยังมาพร้อมเครื่องมือใหม่ๆ อันทรงพลังที่วันนี้สามารถใช้กับการปรับแต่งวิดีโอได้แล้วเช่นกัน ส่วนการปรับแต่งคุณสมบัติ "การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล" ก็ทำได้ทันทีในแอพกล้อง โดยสามารถปรับความเข้มของแสงที่ส่องลงบนแบบ และมีเอฟเฟ็กต์ "แสงไฟขาวดำไฮคีย์" ใหม่ที่จะสร้างลุคขาวดำอันสวยงามให้กับรูปในโหมดภาพถ่ายบุคคล


ราคาและการวางจำหน่าย


iPhone 11 จะพร้อมวางจำหน่ายในรุ่นความจุ 64GB (ราคา 24,900 บาท), 128GB (ราคา 26,900 บาท) และ 256GB (ราคา 30,900 บาท) ในรุ่นสีม่วง สีเขียว สีเหลือง สีดำ สีขาว และ สีแดง PRODUCT(RED) หรือซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และบริษัทให้บริการบางแห่ง (ราคาอาจแตกต่างกัน)

ลูกค้าในสหรัฐอเมริกา เปอร์โตริโก และหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา และอีกกว่า 30 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก จะสามารถสั่งจอง iPhone 11 ล่วงหน้าได้ในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน ตั้งแต่เวลา 5:00 น. ตามเวลาแปซิฟิกเป็นต้นไป และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 20 กันยายน

iOS 13 จะพร้อมให้ดาวน์โหลดในวันที่ 19 กันยายนในรูปของการอัพเดทซอฟต์แวร์ฟรีสำหรับ iPhone 6s และรุ่นใหม่กว่า ส่วนคุณสมบัติเพิ่มเติมของซอฟต์แวร์จะดาวน์โหลดได้ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 13.17

Apple Arcade บน App Store จะเปิดให้บริการพร้อมกับ iOS 13 ในรูปแบบการสมัครสมาชิกในราคา 99 บาทต่อเดือน และสามารถทดลองใช้งานฟรี 1 เดือน8 โดยผู้ใช้จะสามารถเล่นเกมใหม่ๆ ทั้งหมดในแค็ตตาล็อกที่มีให้เล่นที่นี่ที่เดียวกว่า 100 เกมแบบไม่จำกัดทั้งบน iPhone, iPad, iPod touch, Mac และ Apple TV

Apple TV+ จะเปิดให้บริการทางแอพ Apple TV บน iPhone, iPad, Apple TV, iPod touch, Mac และแพลตฟอร์มอื่นๆ รวมถึงทางออนไลน์ที่ (tv.apple.com) ในราคา 99 บาทต่อเดือน และสามารถทดลองใช้งานฟรี 7 วัน นอกจากนี้ลูกค้าที่ซื้อ iPhone รุ่นใดก็ตามจะสามารถใช้งาน Apple TV+ ได้ฟรี 1 ปี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป9

Apple Arcade บน App Store และ Apple TV+ บนแอพ Apple TV เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบริการอันล้ำสมัยของ Apple ซึ่งรวมถึง Apple Music, Apple News+, Apple Pay และ iCloud

ลูกค้าทุกคนที่ซื้อ iPhone 11 จาก Apple จะได้รับบริการตั้งค่าส่วนบุคคลฟรีจากภายในร้านหรือจะเลือกรับบริการแบบออนไลน์ ซึ่งบริการนี้จะช่วยให้ลูกค้าปรับแต่ง iPhone ให้ตรงกับความต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโอนข้อมูล การลบข้อมูลออกจากเครื่องเดิม การตั้งค่าอีเมล การไฮไลท์แอพใหม่ๆ จาก App Store และอีกมากมาย

ลูกค้าสามารถขยายระยะเวลารับประกันแบบจำกัดได้ด้วย AppleCare+ และ AppleCare+ ที่ครอบคลุมถึงการโจรกรรมและการสูญหาย พร้อมรับความช่วยเหลือด้านเทคนิคได้ตลอดเวลาโดยไม่มีวันหยุด

ลูกค้าที่สนใจทำความรู้จักกับ iPhone 11 เพิ่มเติมสามารถเข้าร่วมเซสชั่น Quick Tips ซึ่งเป็นเซสชั่นใหม่ของ Today at Apple ที่ Apple จัดขึ้นได้ โดยเซสชั่น Quick Tips นี้เป็นเซสชั่นที่ใช้เวลา 15 นาทีเพื่อให้ลูกค้าที่มาเข้าร่วมเรียนรู้คุณสมบัติที่เป็นที่นิยมสูงสุดของ iPhone เช่นการถ่ายภาพ ทั้งนี้ เซสชั่น Quick Tip ใหม่จะเริ่มต้นในวันศุกร์ที่ 20 กันยายนนี้

แหล่งที่มา