Apple ลดการผลิต iPhone X ลง 50% ในไตรมาสแรก หลังจากยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า


บริษัทแอปเปิล ปรับแผนการผลิต iPhone X (ไอโฟน เท็น) ในไตรมาสแรกของปีนี้ จาก 40 ล้านเครื่อง ลดลงเหลือ 20 ล้านเครื่อง เนื่องจากยอดขายในตลาดที่สำคัญต่ำกว่าเป้าหมาย

สำนักข่าวนิคเกอิของญี่ปุ่น รายงานว่า บริษัท แอปเปิล อิงค์ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ได้สั่งให้ผู้ผลิตในทวีปเอเชียลดการผลิตลงครึงหนึ่ง จาก 40 ล้านเครื่องเหลือ 20 ล้านเครื่อง ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2018 โดยพบว่าตลาดหลักๆ ทั้ง สหรัฐฯ ยุโรป และ จีน มียอดขายน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่หลังปีใหม่เป็นต้นมา


สาเหตุหลักคาดว่าน่าจะเป็นเพราะราคาที่สูงจนเกินไป โดย iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่แพงที่สุด โดยรุ่น 64GB มีราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์ ส่วนรุ่น 256GB มีราคา 1,149 ดอลลาร์ นอกจากนี้ ซัมซุง ซึ่งเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่สามารถผลิตจอแสดงผลแบบ OLED ในปริมาณที่เพียงพอต่อการผลิต iPhone X ยังมีแผนจะปรับราคาชิ้นส่วนดังกล่าวด้วย (สำหรับประเทศไทย iPhone X รุ่น 64GB มีราคา 40,500 บาท และรุ่น 256GB มีราคา 46,500 บาท)

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์คาดว่า ยอดขาย iPhone X ที่ทำได้ดีในช่วงแรกของการวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วจนถึงช่วงปลายปี จะส่งผลให้ผลกำไรของแอปเปิลในไตรมาสสุดท้ายของปี 2017 อยู่ที่ 19,000 ล้านดอลลาร์ หรือ เกือบ 6 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลกำไรรายไตรมาสที่สูงที่สุดเป็นสถิติของแอปเปิ้ล

ก่อนหน้านี้ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ KGI ก็เคยออกมาคาดการณ์ว่ายอดขาย iPhone X จะลดลงเช่นกัน โดยคาดว่าจะมียอดขายทั้งสิ้น 62 ล้านเครื่อง จากที่เคยทำนายเอาไว้ 82 ล้านเครื่อง

แหล่งที่มา