สรุป 8 จุดเด่นของ Samsung Galaxy Note 8


Samsung ห่างหายการทำตลาดสมาร์ทโฟนในตระกูล Galaxy Note ไปถึง 2 ปี เนื่องจาก Galaxy Note 7 ที่เปิดตัวในปีที่แล้วประสบปัญหาแบตเตอรี่ระเบิดจนต้องยกเลิกการทำตลาดไป แต่ฝันร้ายของ Samsung ได้ผ่านพ้นไปแล้ว เห็นได้ชัดเจนจากกระแสความนิยมของ Galaxy S8 ที่เปิดตัวในครึ่งแรกของปีนี้ และถึงเวลาแล้วที่ Galaxy Note 8 จะออกมาทำตลาดในช่วงท้ายปี 2017 ซึ่งเราพยายามคัดเลือกจุดเด่น 8 อย่าง ที่ทำให้ Galaxy Note 8 มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก

กล้องคู่

หลังจากปล่อยให้คู่แข่งนำหน้าไปก่อน ในที่สุด Samsung ก็มีสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของค่ายที่มาพร้อมกล้องถ่ายรูปแบบ Dual Camera หรือกล้องคู่ Galaxy Note 8 มากับเลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Dual Pixel ออโต้โฟกัส รูรับแสง F1.7 ชดเชยภาพสั่นไหวด้วย OIS (Optical Image Stabilization) วางคู่กับเลนส์เทเลโฟโต้ 12 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส รูรับแสง F2.4 และมี OIS เช่นเดียวกัน ส่วนกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส รูรับแสง F1.7

กล้องถ่ายรูปของ Samsung Galaxy Note 8 สามารถซูมภาพได้ 2 เท่าแบบ Optical ให้ภาพคมชัดด้วย Dual OIS ถ่ายภาพในเวลากลางคืนหรือในบริเวณแสงน้อยด้วยรูรับแสงกว้าง F1.7 และขนาดพิกเซล 1.4 ไมครอน อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพอาหาร, พาโนรามา, สโลว์โมชั่น และโหมดโปร

จอแสดงผล

Samsung Galaxy Note 8 มากับจอแสดงผลดีไซน์ไร้กรอบ Infinity Display แบบเดียวกับ Galaxy S8 หรือ Galaxy S8+ ใช้จอ Super AMOLED ความละเอียด 2960 x 1440 พิกเซล แสดงภาพในอัตราส่วน 18.5:9 กว้าง 6.3 นิ้ว ซึ่งกว้างกว่า Galaxy S8+ และกว้างขึ้น 14% เมื่อเทียบกับ Galaxy Note 5 จึงใช้งาน 2 แอพพลิเคชั่น (Multi Window) ได้อย่างถนัด

ปากกา S Pen

S Pen เป็นคุณสมบัติหลักที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจ Galaxy Note 8 เพราะในตลาดสมาร์ทโฟนมีเพียง Galaxy Note เท่านั้น ที่แถมปากกามาให้ และมาพร้อมแอพพลิเคชั่นที่ออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับปากกา S Pen โดยเฉพาะ

ปากกา S Pen ของ Galaxy Note 8 มีหัวปากกาที่เล็กลงเมื่อเทียบกับ S Pen ของ Galaxy Note 5 จึงมีความแม่นยำในการวาดเขียนมากขึ้น รองรับแรงกดถึง 4096 ระดับ ให้ความเป็นธรรมชาติเหมือนใช้ปากกาธรรมดา

แอพพลิเคชั่นที่สนับสนุนปากกา S Pen ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับ Galaxy Note 8 เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในระดับไฮเอนด์ มาพร้อม Live Message ที่สามารถใช้ปากกาแต่งเติมรูปภาพให้มีความสนุก จากภาพนิ่งเป็นภาพเคลื่อนไหว GIF, Samsung Notes เครื่องมือจดบันทึกได้ทุกสิ่งอย่าง รวมทั้งสร้างภาพกราฟิก, Screen off memo ขีดเขียนได้ทันทีโดยไม่ต้องปลดล็อคสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังใช้ปากกา S Pen ทำงาน 2 แอพพลิเคชั่นพร้อมกัน ขยายแผนที่ และแปลภาษาได้

ประสิทธิภาพ

Samsung Galaxy Note 8 ใช้ขุมพลัง 64-bit Octa Core (2.3GHz Quad Core + 1.7GHz Quad Core) จากโปรเซสเซอร์ 10 นาโนเมตร เล่นเกมส์ที่ใช้กราฟิคหนักๆ ได้อย่างหมดห่วงด้วย Vulkan API และมาพร้อมหน่วยความจำ RAM 6GB (LPDDR4) ความจุภายในมีให้เลือก 3 รุ่น (64GB/128GB/256GB) ขยายหน่วยความจำได้สูงสุด 256GB โดยใช้การ์ด MicroSD

ระบบรักษาความปลอดภัย

Samsung Galaxy Note 8 นำเทคโนโลยีที่เคยใช้มาแล้วกับ Galaxy Note 7 กลับมาใช้อีกครั้ง นั่นคือ Iris Scanner ช่วยป้องกันการเข้าใช้สมาร์ทโฟนจากบุคคลอื่น ด้วยการสแกนดวงตา และยังมีระบบจดจำใบหน้า กับระบบสแกนลายนิ้วมือให้เลือกใช้งานตามความถนัด รวมถึงระบบป้องกันรูปแบบเดิมที่มากับระบบปฏิบัติการ Android

กันน้ำและฝุ่น

Samsung Galaxy Note 8 รวมถึงปากกา S Pen มาพร้อมคุณสมบัติป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุด สามารถกันน้ำที่ความลึก 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที ในน้ำจืดปกติที่ไม่มีสารเคมีเจือปน

เครือข่ายและการเชื่อมต่อ

Samsung Galxy Note 8 รองรับเครือข่าย LTE Cat. 16 การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz) สนับสนุน Gigabit LTE และ Gigabit Wi-Fi ซึ่งหมายถึงการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วยความเร็วสูงถึง 1 กิกะบิตต่อวินาที และสนับสนุน 2 ซิมการ์ดแบบไฮบริด (ช่องที่ 2 ต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดหรือการ์ดหน่วยความจำ)

เทคโนโลยีเดิมจาก Galaxy S8

สำหรับใครที่อยากได้ Galaxy S8 แต่ตัดสินใจรอซื้อ Galxy Note 8 เพราะเชื่อว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แสดงว่าคุณได้ตัดสินใจถูกต้องแล้ว Galxy Note 8 เหมือนเป็นการอัพเกรดมาจาก Galxy S8 ทั้งการออกแบบและประสิทธิภาพ ดังนั้นเทคโนโลยีที่เคยนำมาใช้กับ Galaxy S8 ก็ยังนำมาใช้กับ Galaxy Note 8 ด้วย นั่นก็คือ Bixby และ Samsung DeX

Bixby คือผู้ช่วยอัจฉริยะรองรับคำสั่งเสียง ที่ Samsung เริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ Galaxy S8 ซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและยังไม่รองรับภาษาไทย ส่วน Samsung DeX ช่วยทำให้ Galxy Note 8 กลายเป็นคอมพิวเตอร์ โดยนำจอมอนิเตอร์, คีย์บอร์ด, เม้าส์ และสาย HDMI มาเชื่อมต่อ แต่ Samsung DeX ไม่ได้แถมมาให้ในกล่องต้องซื้อเพิ่มเอง